“เวทีทำความเข้าใจ เขื่อนวังหีบ ” ตึงเครียดภาคราชการดันเดินหน้าให้ได้อ้างองคมนตรีเร่งถาม
ชาวบ้านยันไม่สมเหตุสมผลตอบคำถามไม่เคยได้-พร้อมปกป้องวิถีชีวิตชุมชนจนถึงที่สุด
ที่นครศรีธรรมราช เมื่อ 28 มกราคม 2566 มีรายงานว่านายถิรนาท เอสะนาชาตัง นายอำเภอทุ่งสง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการวังหีบ หรือโครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ ได้นัดหมายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการเข้ารับฟังการชี้แจงของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนโครงการ โดยใช้ศาลาวัดด่านกำจัด หมู่ 1 ตำบลนาหลวงเสน อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่จัดเวที เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ปรากฎว่ามีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการจำนวนมากมาร่วมเวทีจนเต็มศาลา
บรรยากาศในการดำเนินการเป็นไปอย่างตึงเครียดขณะที่ นายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการสำงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 15 พยายามที่จะชี้แจงถึงโครงการในส่วนที่ชาวบ้านจะได้รับค่าชดเชยจากที่ดินทำกิน บ้านเรือน ผลอาสิน แต่ชาวบ้านซึ่งได้หารือร่วมกันมาแล้วได้ยืนยันมติว่า ไม่รับฟังการชี้แจงเรื่องนี้ เนื่องจากไม่ยินยอมและไม่ยอมรับให้มีการสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำวังหีบอย่างเด็ดขาดแต่จะให้ชี้แจงถึงเหตุผลที่จะสร้างเพื่อตั้งต้นให้ได้ก่อนว่า มีเหตุผลอย่างไรเพียงพอสมเหตุสมผลหรือไม่
ขณะที่นายชูศักดิ์ สุทธิ ผู้อำนวยการสำงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 15 พยายามชี้แจงถึงหลักการเหตุผลของโครงการนี้ว่ามีความจำเป็นสำหรับพื้นที่การเกษตรอย่างน้อย 2 หมื่นไร่ กักเก็บน้ำหน้าแล้ง ขณะที่นายวุฒิชัย แก้วลำหัด หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน ได้ใช้เหตุผลข้อเท็จจริงภูมิศาสตร์ในพื้นที่ระบุถึงทิศทางของสายน้ำที่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับตัวเมืองทุ่งสงแม้แต่น้อยที่ทางราชการได้อ้างก่อนหน้านี้ พื้นที่การเกษตรที่มีความเปลี่ยนแปลงไปมากแล้วไม่มีนาข้าวเหลืออยู่แล้ว รวมทั้งข้ออ้างขาดแคลนน้ำไม่สมเหตุสมผลเนื่องจากปริมาณน้ำมีเพียงพอในแหล่งการผลิตประปาหล่อเลี้ยงตัวเมืองทุ่งสงอยู่แล้ว และยืนยันว่ามีตัวอย่างที่เกิดขึ้นกับอ่างคลองสังข์มาแล้วให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่แต่ไม่มีพื้นที่รองรับปัจจุบันอ่างคลองสังข์ใกล้เสร็จแล้ว แต่ชาวบ้านยังต้องอาศัยอยู่ในบ้านก้นอ่างไม่รู้จะอพยพไปไหนเพราะอะไร นี่คือความเป็นจริง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทวีความตึงเครียดเมื่อ นายถิรนาท เอสะนาชาตัง นายอำเภอทุ่งสง ได้สอบถามชาวบ้านว่ามาจากพื้นที่ไหน ขณะที่ชาวบ้านระบุว่าเป็นผู้ได้รับผลกระทบเป็นผู้เดือดร้อนโดยตรง นายถิรนาท ได้ถามเจ้าหน้าที่ว่าลงชื่อกันหรือยัง ไหนขอดูชื่อทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างมากทยอยลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับนายอำเภอพร้อมทั้งนำบัตรประชาชนให้นายอำเภอดู ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้เข้ามากันชาวบ้านและคืนบัตรประชาชนให้
อย่างไรก็ตามก่อนที่เวทีจะจบลงปลัดอำเภอในฐานะเลขานุการคณะทำงาน ได้ขอให้ชาวบ้านแจงเหตุผลว่าหากเจ้าหน้าที่จะเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลในพื้นที่ชุมชนได้หรือไม่ โดยอ้างว่าจะเป็นเหตุผลในการชี้แจงรายงานตอบคำถาม “องคมนตรี” ที่เร่งรัดสอบถามเรื่องนี้มา ขณะที่ชาวบ้านยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องมีการสำรวจเนื่องจากไม่จะเป็นต้องสร้างอยู่แล้วความพยายามในการเข้าสำรวจจึงไม่ใช่ความจำเป็น พร้อมทั้งยืนยันว่าโครงการนี้เป็นโครงการเก่ามากแล้วที่ไม่สอดคล้องกับบริบทของภูมิประเทศ พื้นที่ทางการเกษตร และวิถีชีวิตของชุมชน ที่เปลี่ยนปลงไปมากแล้วหากก่อสร้างโครงการเท่ากับเป็นการทำลายสิ่งเหล่านี้ แต่ไปเอื้อให้กับกลุ่มทุน กลุ่มผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง โดยชาวบ้านเป็นผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
ข่าว / เสือหมอบแมวเซา