เที่ยวปากพูน – ช่วงโควิดยาวนานจนอยากระบายหาทางออก เที่ยวไหนก็ได้ที่ปลอดภัยเรื่องโควิด โชคดีเหลือเกินที่นครศรีธรรมราชมีที่เที่ยวธรรมชาติหลายที่ที่สามารถเที่ยวได้โดยห่างไกลผู้คน ทั้งป่าเขา ทะเล แต่สำหรับพวกเรา “คณะปกติสุข” นำโดยหัวหน้าทีม คุณนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์ เดินทางสู่ ต.ปากพูน อ.เมือง ซึ่งอยู่ไม่ไกลเลย เป้าหมายคือ พายเรือคายัคล่องชมป่าโกงกาง ซึ่งอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
เราออกจากร้าน Rim แยกเบญจม เดินทางประมาณ 20 นาทีก็ถึงท่าเรือบริเวณธนาคารปูม้า บ้านปากน้ำปากพูน โดยมีพี่เชาว์ เป็นผู้นำเที่ยวครั้งนี้ แน่นอนว่าต้องเตรียมใจกันล่วงหน้า เพราะระยะทางหลายกิโลเมตรที่เราจะต้องเผชิญ
ลงเรือ ลงแรง พายคายัค สู้ชีวิตที่ปากพูน
เวลาประมาณ 08.15 เริ่มออกจากท่าเรือ โดยมีเรือ 4 ลำ ของไกด์ 1 ลำ ของพวกเรา 3 ลำ แม้แดดจะสาดส่องอย่างหนักก็ไม่หวั่นเพราะเรี่ยวแรงยังมี ยังไม่ทันมีอะไรให้ถ่ายก็รีบจะถ่ายกันเหลือเกิน 555
แอดมินพายคนเดียว โชคดีที่ได้เรือลำเพรียวๆและเบามาก ทำให้ผ่อนแรงในการพายไปได้เยอะทีเดียว ส่วนลำที่มีพี่จอมและหมีดูท่าทางจะหนักใช้ได้เลย ลำใหญ่หน่อย ต้องพายกันสองคน
เราพายอยู่บนคลองปากพูนประมาณ 4 กิโลเมตร ตรงนี้ค่อนข้างร้อนมากเพราะไม่มีร่มเงาของป่าโกงกาง ริมตลิ่งตื้นไม่สามารถพายเรือเข้าไปไกลตลิ่งได้ ต้องทนตากแดดกันไปก่อน
จนกระทั้งถึงจุดพักจุดแรก เป็นแพ พวกเราปีนขึ้นไปนั่งดื่มน้ำพักผ่อนกันประมาณ 20 นาที แน่นอนว่าเริ่มเห็นถึงความเหนื่อยล้า จุดนี้ยังไม่กล้ากินข้าวเพราะกลัวจะอิ่มพายไม่ไหว เอาไว้จุดข้างหน้าค่อยพัก
เที่ยวปากพูน รุนคายัค
เราเริ่มออกเดินทางต่อ เลี้ยวซ้ายเปลี่ยนเส้นทาง จุดนี้ดีหน่อยเพราะมีร่มเงาโกงกางพาดถึง พายสบาย ลำบากนิดตอนที่มีเรือชาวประมงวิ่งผ่านทำให้เรือโคลงเคลงนิดหน่อย
พายไปสักพักก็เลี้ยวขวาเปลี่ยนเส้นทาง ทางแคบ ต้นโกงกางเยอะมาก และแถมด้วยยุงเยอะแถมกัดเจ็บมาก ดีที่ทางพี่เชาว์แจ้งไว้ล่วงหน้าให้เตรียมยาทากันยุงไปด้วย เขาบอกว่ามียุงเป็นบางวัน บอกเลยว่ามันกัดได้คันจริงๆ
ความสนุกบนคายัค
สักพักเราก็เจอกับทางตันเนื่องจากน้ำลง ต้องเลี้ยวเรือออกมาทางเดิมอีกครั้ง ทุลักทุเลไปบ้างกับการถ่ายภาพ กลัวกล้องเปียกก็กลัว แต่อยากได้ภาพสวยๆ รุงรังอยู่บนเรือนั่นแหละ เปียกบ้างชื้นบ้าง มือต้องภายบ้าง พอทิ้งพายจับกล้องเรือก็เลี้ยว ถ่ายส่งๆไป ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง
มื้อเที่ยงแสนอร่อยกลางน้ำ
ก่อนถึงเส้นทางที่เรียกว่าอุโมงอเมซอนพวกเราแวะกินมื้อเช้ากัน เหนี่ยวไก่ และกาแฟ Moka pot จากพี่นนท์ ณ เวลานี้เป็นมื้ออาหารที่อร่อยมากที่สุดในโลก การต้มกาแฟก็ดูวิบากไม่น้อยเพราะต้มบนเรือ ต้องคอยระวังคลื่นจากเรือหางยาวที่ผ่านไปมา แม่จะวิ่งเบาๆก็ทำให้คายัคของพวกเราเซได้ไม่น้อย
เข้าสู่อุโมงอเมซอนแห่ง ปากพูน
หลังจากอิ่มกันถ้วนหน้าก็ได้เวลาออกเดินทางเข้าสู่เส้นทางที่เรียกว่า อุโมงอเมซอน ซึ่งทาง ต.ปากพูน กำลังดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของปากพูน ต้นโกงกางร่มรื่นมาก มีนกน้ำเดินหากินแบบไม่ค่อยจะกลัวต่อการมาของพวกเรามากนัก ทำให้สามารถส่องถ่ายรูปได้สนุกมือ การพายช่วงนี้ไม่รีบ เน้นถ่ายภาพมากๆ
หมดแรงแล้ว กลับบ้านกันเถอะ มาเที่ยวใหม่นะปากพูน
หลุดออกจากจุดนี้ก็มุ่งหน้ากลับเลย แดดที่ร้อนฉ่า และเรี่ยวแรงที่หดหายเกือบหมด ทำให้การพายเป็นไปด้วยความล้า เหนื่อยจริงๆ แต่ก็ยังพายไหว กำลังใจอยู่ที่เรือจะออกไปสู่คลองใหญ่ แน่นอนว่านั่นคือไกลกลับถึงฝั่ง แต่… ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น 555 เพราะเมื่อเราออกสู่คลองใหญ่ ปรากฏว่าน้ำกำลังลงทำให้กระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยว แม่เจ้า!!! การพายเรือทวนน้ำมันช่างโหดร้าย ยิ่งพายยิ่งช้า ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร แต่เพื่อนเราบางคนก็สละยาน ขอให้ป้าที่ขับเรืออยู่แถวนั้นช่วยลากกลับ (ขออภัย ต้องแกงหน่อย 555) ส่วนผมกับพี่นนท์ขอพายให้ถึง สุดท้ายก็ถดึงท่าเรือแบบหมดเรี่ยวหมดแรง
สรุปได้ว่าทริปนี้เหนื่อยและสุดจะสะใจ อยู่กับธรรมชาติ ไม่เจอผู้คนมากมาย คุ้มค่าที่สุดสำหรับการเที่ยวช่วงโควิดระบาดเยี่ยงนี้
สนใจพายเรือคายัค สอบถามพี่เชาว์ คลิกเลยจ้า
ถ่ายภาพ จอม/ชัย