ผ่านมาก 9 วัน สำหรับการจากไปของพายุ Pabuk ที่สร้างความปวดร้าวให้กับชาวนครศรีธรรมราชหลายหมื่นคน บางคนบ้านหายทั้งหลัง บางคนหลังคาหาย บางค้นต้นไม้ล้มทับบ้าน บางคนก็เล็กน้อย แต่ที่โดนร่วมกันที่สาธารณะต่างๆพังยับเพราะต้นไม้ล้ม วัด โรงเรียน อาคารราชการ ถนน ระบบไฟฟ้าที่ดูแล้วแก้กันเป็นเดือนเพราะล้มเยอะมาก สู้กันต่อไปนะชาวนครศรีธรรมราช
หวนนึกไปตอนไลฟ์สดเรื่องชาวบ้านที่อพยพหนีเพื่อเตรียมตัวรับพายุ ยังมีเพื่อนๆที่น่ารักเตือนด้วยความหวังดีว่า “กระต่ายตื่นตูมแรง” เรามานั่งคิด ถ้ากระต่ายไม่ตื่นตูมในวันก่อนพายุมา ตอนนี้เหล่ากู้ภัยอาจจะต้องเปลี่ยนจากการตัดต้นไม้ไปเป็นการเก็บศพนับร้อยแน่นอน เมื่อก่อนตอนซึนามิยังไม่มีการเตือนภัยเราก็เอาแต่ด่าราชการว่าทำไมไม่มีระบบเตือนภัยซึ่งชาวโลกเขามีกัน มาวันนี้ระบบเตือนภัยต่างๆมีมาอย่างรวดเร็ว ก็จะเห็นบ่อยครั้งที่มีคนจะบอกว่ากลัวเกินเหตุไปมั๊ย จริงๆกลัวไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ดีกว่าต้องพังทะลายเพราะการไม่กลัว อย่างที่มีให้เห็นบ่อยๆ เพราะระยะหลังภัยธรรมชาติแบบแรงๆมีที่นครศรีธรรมราชบ่อยครั้ง น้ำท่วมหนักแบบปีเว้นปี น้ำป่าไหลลงจากคีรีวงเข้าเมืองแบบตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ละครั้งสร้างความเสียหายหนัก
วันนี้ขับผ่านหลังวัดเพชรจริก ต้องรีบหยุดรถลงไปถ่าย เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับการขับรถผ่านเมรุนี้ ต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมมายาวนาน ทำให้ความเข็มขลังและวังเวงมีมาให้เสียวหลัง โดยเฉพาะเพื่อนๆที่ขับรถในตอนกลางคืน บางคนไม่ยอมผ่านถนนเส้นนี้เลย ภาพที่เห็นวันนี้คือต้นตะเคียนใหญ่ล้มตีตัวเมรุจนพังไปหลายส่วน จนท.ตัดต้นไม้ไปแล้วบางส่วน ที่เหลือเราก็เอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานหนักกันต่อไปอีกหลายวัน เพราะต้นไม้ใหญ่ล้มทั่วเมืองจริงๆ