ลืมตามาดูโลก พอเริ่มจะจำความได้ก็เห็นผู้ใหญ่เขาก็ไปนั่งกินน้ำชากันแล้ว สมัยก่อนทางใต้ยังไม่นิยมดื่มกาแฟ เพิ่งมานิยมกันช่วงที่มีกาแฟ 3in1 นั่นแหละเขาจึงดื่มกาแฟกัน
ช่วงเวลาดื่มน้ำชาถ้าเป็นแถบชนบทก็มักเป็นช่วงเช้าหลังจากกรีดยางเสร็จ เหล่าหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยในขุมชนก็จะมารวมอยู่ร้านน้ำชาประจำหมู่บ้าน ส่วนในเมืองก็จะมีช่วงค่ำด้วย
ราคาที่ไม่แพงของการดื่มน้ำชาคงเป็นอีกตัวที่ทำให้การดื่มน้ำชาเป็นที่นิยม มันคือความบันเทิงที่ราคาถูก แต่เปี่ยมไปด้วยความสุขใจหรือที่รุ่นใหม่เรียกมันว่าชิวๆ ลูกค้าจะจ่ายแค่ค่าน้ำชาประมาณ 10-15 บาท ส่วนน้ำร้อนที่ตามมาจะฟรีไม่อั้น บางคนอาจจะนั่งได้ครึ่งวันก็มี
อย่างอื่นที่มีคู่กับวงน้ำชาก็เห็นจะเป็นขนมพื้นบ้าน ใครหิวก็กินขนม แต่ที่สำคัญสุดอีกอย่างที่ต้องมีนั่นคือใบกระท่อม เมื่อก่อนที่กระท่อมยังไม่ผิดกฏหมาย เจ้าของร้านจะมีเชี่ยนใส่ใบกระท่อมไว้ให้ฟรีๆเหมือนเชี่ยนหมาก แต่เมื่อกระท่อมเริ่มผิดกฏหมายเหล่าเซียนน้ำชาก็ต้องพกกันมาเองตามสะดวก
ชาที่นิยมดื่มก็จะเป็นชาร้อนใส่นม ชงใส่แก้วใสๆ นมข้นจะกองอยู่ก้นแก้ว เวลาจะดื่มก็ต้องคนให้เข้ากันก่อน โดยวงน้ำชาจะต้องมีกาน้ำร้อนซึ่งอาจใส่ใบชาหรือใบชนิดอื่นตามท้องที่ อารมณ์ต่อเนื่องของการดื่มน้ำชาก็จะเริ่มตอนนี้แหละครับ
ชาร้อนที่ชงมาหมดไปรวดเร็วเพราะเย็นแล้วจะไม่อร่อย หลังจากนั้นวงน้ำชาก็จะกลายเป็นโต๊ะวิเคราะห์ข่าวแบบเต็มรูปแบบ โดยข่าวที่เน้นพิเศษจะเป็นข่าวการเมือง ส่วนข่าวบันเทิงจะไม่นิยมนำมาพูดในวงน้ำชา เหล่าสมาชิกจะผลัดกันแสดงทัศนแบบละเอียดกว่าช่องทีวี
ปัจจุบันความนิยมในร้านน้ำชาแบบดั้งเดิมจะถูกแทนที่ด้วยร้านกาแฟเท่ๆสมัยใหม่ ถ้าจะกินชาแบบเดิมๆก็วนหาตามชุมชน จะยังคงมีร้านเล็กๆขายกันอยู่ คนจะพลุกพล่านหน่อยก็ช่วงเช้าเพราะบรรยากาศดี