สวนเปี่ยมสุข ชื่อของโฮมสเตย์ชื่อดังของคีรีวงที่นักท่องเที่ยวที่นิยมธรรมชาติจะรู้จักกันเยอะ แอดมินเองสัญญาไว้กับครูโจและพี่เหลิมเจ้าของสวนว่าจะขึ้นไปเที่ยว แต่คำสัญญานั้นล่วงเลยมาแล้ว 4 ปี ตั้งแต่เขายังไม่ได้เริ่มสร้าง จนบัดนี้ถึงจะได้มาเยือนในฐานะนักท่องเที่ยว
อันที่จริงจะว่าไม่มาเลยก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเคยมาที่นี่ 2 ครั้งกับกิจกรรมวิ่ง ครั้งแรกวิ่งเทรลผ่านโดยไม่รู้มาก่อนว่าจะผ่าน ครั้งที่ 2 เป็นการนัดวิ่งมาที่นี่โดยตรงจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ครั้งนั้นมาถึงก็หมดแรง กินข้าวแล้วก็กลับกัน
ครั้งนี้ถือเป็นการมาแบบนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ นัดหมายคือวันที่ 5 ธันวาคมซึ่งเป็นวันหยุด ผมขับรถออกจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช มุ่งหน้าสู่คีรีวง ซึ่งใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง เส้นทางที่จะไปต่อนั้นต้องใช้มอเตอร์ไซค์ จึงใช้เวลาเล็กน้อยระหว่างรอเดินชมร้านค้า บ้านใบไม้คือเป้าหมายที่ไปหาซื้อผ้ามัดย้อม
สักพักทางพี่เหลิมก็โทรมาบอกว่ามารออยู่หน้าวัดคีรีวง จึงไปเจอที่นัดพอแล้วนำรถยนต์ไปฝากไว้ที่บ้านคุณตา ส่วนผมก็ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าขึ้นสู่สวนเปี่ยมสุข ตรงนี้เราก็จะได้สนุกกับเส้นทางธรรมชาติ และรถของชาวบ้านที่ขับสวนไปมาบนทางแคบๆ
ช่วงนี้เป็นหน้าฝน เรื่องจะหลีกเลี่ยงฝนนั้นยากแน่นอน ยิ่งความชุ่มฉ่ำของคีรีวงนั้นคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องเจอไม่ต่างจากการเดินป่า ใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย ทักทายคุณพ่อคุณแม่ของครูโจ ซึ่งจะเป็นคนดูแลเรื่องอาหารการกินให้
ด้านครูโจกำลังจัดที่นอนให้ผม ไม่ได้เป็นห้องแอร์หรูๆ มีน้ำอุ่นให้อาบ มีทีวีให้ชม แต่ห้องของผมคืนนี้คือเต็นท์ขนาดใหญ่ที่วางอยู่ริมลำธาร ล้อมรอบด้วยต้นไม้ ได้ยินเสียงน้ำไหลเสียงดังตลอดเวลา ถ้าเข้าไปนอนในเต็นท์ก็อาจจะคิดว่าฝนตกอยู่ตลอดเวลาเพราะเสียงดังมาก
จริงๆแล้วเรานัดกันไว้ว่าจะไปเก็บเห็ดมาทำกับข้าวกัน แต่พอไปถึงสภาพอากาศที่เย็นพอสมควรประกอบกับฝนที่มาให้ฉ่ำกันเป็นระยะ แผนต่างๆที่วางไว้เป็นอันยกเลิก นั่งชมสายน้ำให้สบายใจดีกว่า 555 (อาการขี้เกียจมาเยือน)
สลัดอาการกลัวความเย็นได้ก็ตัดสินใจลงไปในลำธารหน้าเต็นท์ อาบน้ำให้ชื่นหัวใจ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในเมือง เอาหัวพิงก้อนหินแล้วหลับตา มันเป็นอารมณ์ที่ยากจะบรรยายได้ ที่รู้ๆคือโล่งสมอง
ครูโจและพี่เหลิมเอาแก้วกาแฟมาถ่ายรูปเล่นกัน ก่อนจะชวนกันไปลิ้มรดชาดฝีมือการทำอาหารแบบบ้านๆของคุณพ่อคุณแม่ที่ทำไว้เรียบร้อยแล้ว
ห้องอาหารของเราคืนนี้คือขนำเล็กๆ ฟังเสียงจั๊กจั่นขับกล่อมไปด้วย อาหารเป็นอาหารพื้นบ้านง่ายๆทั้งหมด แกงคั่ว น้ำพริก ไข่เจียว ผักลวก แกงเลียง ผมเสียท่าให้กับน้ำพริกและไข่เจียวอย่างหนัก หน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม เพราะอร่อยมาก ยิ่งกินในป่ายิ่งอร่อย ขณะเขียนยังแอบหิวซะนี่
วันนี้เป็นวันหยุดครูโจกับพี่เหลิมจึงได้หยุดงานมาคุยเป็นเพื่อน วงสนทนาของเราดำเนินไปพร้อมๆกับกินข้าว และตบท้ายด้วยเบียร์ ช่วงหลังนี้นั่งเล่าประสบการณ์ชีวิตพร้อมๆกับเรื่องผี สำหรับผมมันสนุก แต่สำหรับครูโจอาจจะมีเรื่องกับพี่เหลิมได้ 555
เวลาผ่านไปเร็วมาก ประมาณ 5 ยอมสงบต่อความง่วง กลับไปสู่เต็นท์ที่พักริมน้ำ
มันเป็นคืนพิเศษคืนหนึ่งของการนอน เสียงการไหลของน้ำยังคงขับกล่อม นอนฟังเสียงน้ำจนหลับไป
รีบตื่นตอนเช้ากะว่าจะถ่ายภาพสนุกๆ แต่ฝนก็ไม่เป็นใจ เพราะตกลงมาแต่เช้า ด้านครูโจและพี่เหลิมต้องเดินทางเข้าเมืองไปทำงานก่อน ส่วนผมก็สนุกกับการบดกาแฟและนั่งดื่มริมน้ำ สบายใจจนไม่อยากกลับเข้าเมือง
แต่ก็ต้องตัดใจ กลับกันก่อน โอกาศดีต้องมาเยือนอีกแน่นอน ขอบคุณครูโจและพี่เหลิม ขอบคุณพ่อกับแม่ ขอบคุณทริปวันหยุดดีๆ ที่ทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ สมองปลอดโปร่ง พร้อมกลับมาลุยงานกันต่อ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจ https://www.facebook.com/%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82-%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%87-1727277524157757/
สนับสนุนการรีวิวเมืองนครโดย
บ.สิงห์อรฉัตร จำกัด
บ้านน้ำสิงห์
คุณนนทิวรรธน์ นนทภักดิ์
34action
Boog bar